9vannarat's Blog

ไก่พม่า : เจ้าเยียร์ทอง

อายุ 7 เดือน น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม

http://www.thaifeed.net/ | http://www.thaiturkeyclub.com/ http://www.enterfarm.com/ | http://gai.enterfarm.com/

ประวัติความเป็นมาของไก่เหล่าป่าก๋อย หมู่บ้านเหล่าป่าก๋อย    ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นแหล่งสถานที่ให้กำเนิดสายพันธุ์ไก่ชนมีเชิงกัดจิก ไม่เลือกที่ คาบบ่าตีตัว (ก้าบจัด)ทรหดอดทน และที่สำคัญตีแรงตีหนัก (ฆ้อนหนัก)  ซึ่งไก่ชนสายพันธุ์นี้ให้ชื่อเรียกตามหมู่บ้านว่า “ไก่เหล่าป่าก๋อย”

เล่ากันว่า    พ่อหลวงสุพจน์ วิจิตร    ผู้ใหญ่บ้านป่ารกฟ้า ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง  เมื่อประมาณ 30ปีก่อน เมื่อพ่อหลวงสุพจน์ ได้ถูกเกณฑ์ทหาร เข้าประจำการในเขตภาคตะวันออก    หลังจากปลดประจำการแล้วก็ได้นำไก่ชนของเมืองจันทน์กลับมาด้วย เป็นไก่สีเหลืองเลาตัวผู้ มีลีลาการชนคล้ายๆ ไก่เชิงตราด คือ มัดล็อค มุด ตีตัว และลอดทะลุหลัง   ส่วนตัวเมียเจ้าของไม่ให้เพราะห่วงสายพันธุ์        เมื่อกลับมาถึงบ้านป่ารกฟ้า ก็ได้นำมาพัฒนาผสมพันธุ์กับไก่พื้นบ้าน ซึ่งมีลักษณะเด่น คือ เดินหน้าจิกหลังตีทั่วตัว ไม่ต้องใช้เชิงก่อน   เป็นไก่รอยเล็ก น้ำหนักราว1.8-2 กิโลกรัม         ปรากฎว่าลูกครอกแรกๆถือว่าใช้ได้ แต่พอต่อๆมาก็เริ่มใช้ไม่ได้ เพราะสาเหตุการผสมครอกหรือสายเลือดเดียวกันทุกๆปี ทำให้เกิดเลือดชิด     พ่อหลวงสุพจน์จึงกลับไปเมืองจันทน์อีกครั้ง เพื่อเสาะหาสายพ่อพันธุ์เหลืองเลาตัวเก่ง   และก็ได้กลับมาหลายตัว  เมื่อผสมไปได้หลายปี ปรากฎว่าลูกไก่ที่ออกมามีโครงสร้างตามสายพันธุ์และที่สำคัญมีชั้นเชิงดีกว่าพ่อและแม่พันธุ์เดิม  คือได้เชิงดีทั้งจากพ่อและแม่  โดยเฉพาะเชิงเดินหน้าตีและจิกหลังตีทั่วตัว ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะเด่นของไก่สายพันธุ์นี้     ต่อมาก็มีนักเล่นไก่ต่างหมู่บ้านได้นำสายพันธุ์ไก่นี้ไปเลี้ยงและพัฒนาต่อเนื่อง

หมู่บ้านเหล่าป่าก๋อย    ก็เป็นอีกหมู่บ้านที่ได้รับสายพันธุ์ไก่มาจากพ่อหลวงสุพจน์    และไก่สายพันธุ์จิกกัดไม่เลือกที่ จากบ้านเหล่าป่าก๋อยนี้เอง ที่ถูกนำออกชนและสร้างชื่อเสียง จนขนานนาม ไก่สายพันธุ์นี้ว่า “ไก่เหล่าป่าก๋อย”

ยังเล่าต่อกันอีกว่าในการพัฒนาไก่เหล่าป่าก๋อยในรุ่นต่อๆมา มี กำนัน แก้วปาปวน     อดีตกำนัน3สมัย แห่งตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง ได้เป็นผู้อนุรักษ์และพัฒนาไก่ชนเหล่าป่าก๋อยเช่นกัน โดยได้สายพันธุ์มาจากพ่อหลวงสุพจน์

คุณเชียร สันกำแพง   ประธานชมรมอนุรักษ์ไก่ชนเมืองเหนือ จังหวัดลำพูน ได้เล่าถึงความเป็นมาว่า    เมื่อประมาณปี 2526-2527 สมัยนั้นเซียนไก่ชนไม่มีใครเล่นไก่ชนที่มีเชิงลักษณะไก่เหล่าป่าก๋อย แต่จะนิยมเล่นไก่สายพันธุ์พม่ามากกว่า  คุณเชียร เล่าต่อไปว่า แต่เดิมนั้นพ่อหลวงสุพจน์และกำนันแก้ว ปาปวน เป็นผู้เลี้ยงและพัฒนาพันธุ์  แต่ก็ยังไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจกับไก่ชั้นเชิงนี้เท่าไร จนกระทั่ง    นายเดช ปาปวน ชาวหมู่บ้านเหล่าป่าก๋อย ได้เหล่ากอสายพันธุ์ไก่นี้มาจากพ่อหลวงสุพจน์ และนำออกชนตามสนามชนไก่ในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และจังหวัดใกล้เคียง และได้รับชัยชนะ   สร้างชื่อเสียงให้กับไก่ชนสายพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก   สมัยนั้นเล่ากันว่า เซียนทางภาคเหนือพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไก่อะไรจิกกัดทั้งตัว”  ไก่ตัวที่สร้างชื่อเสียงให้นายเดช ปาปวน เป็นอย่างมาก เช่น ไอ้สาวิดีโอ ,ไอ้สาน้อย     และนายเดช ปาปวน มีเพื่อนที่สนิทและเล่นไก่ด้วยกัน คือ นายจำลอง ชัยปัน หรือที่รู้จักกันในนาม นายยืน  ชาวบ้านหนองผ้าขาว ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน   ก็เป็นผู้ได้รับเหล่ากอและพัฒนาสายไก่เหล่าป่าก๋อย หลังจากนายเดช ปาปวน เสียชีวิตแล้ว

นายจำลอง ชัยปัน หรือ นายยืน เปิดเผยว่า เดิมที่ตนและนายเดช ปาปวน เป็นเพื่อนสนิทกันมาก นายเดชเป็นชาวบ้านเหล่าป่าก๋อยและเป็นหลานของกำนันแก้ว ปาปวน      หลังจากที่นายเดช เสียชีวิต ตนเองได้นำไก่สายพันธุ์ของนายเดชมาเลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์สืบต่อมา      ไก่ชนที่ทำชื่อเสียงให้กับ นายจำลอง ชัยปัน หรือนายยืน  ได้แก่ ไก่ชื่อไอ้แจ้ ซึ่งเป็นพ่อพันธุ์และให้ลูกเก่งออกมาหลายตัว คือ ไอ้ทหารเรือ ไอ้แดงน้อย ไอ้แดงหน้าง่อม  ตัวที่นายยืน พูมใจที่สุดก็คือ ไอ้หนุ่มเหนือ คาราบาว หรือไอ้สามแสนสาม  ชนชนะไก่พม่าที่สนามชนไก่ เวล จังหวัดนครปฐม  เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2543  ไก่ตัวนี้เป็นไก่ลูกเพาะของตน เกิดที่ บ้านหนองผ้าขาว หรือบ้านวังสวนกล้วย         ไก่ชนไอ้หนุ่มเหนือคาราบาว ตนเองเพาะเลี้ยงและแบ่งกับครูรัน โดยครูรันเลี้ยงและออกชนในเขตภาคเหนือ จากนั้นครูรันได้ขายต่อให้กับคุณเลิศพงศ์ อดิศร หรือทนายก้อง

ไอ้หนุ่มเหนือคาราบาว มาจากสายพันธุ์ไอ้แจ้ ซึ่งเป็นพ่อพันธุ์สายหลักของนายยืน  ไอ้แจ้เป็นพ่อไก่ให้ลูกเก่ง  และไอ้แดงหน้าง่อมก็เป็นไก่เก่ง ลูกของไอ้แจ้  และเป็นพ่อของไอ้หนุ่มเหนือคาราบาว    ส่วนแม่พันธุ์ ชือ แม่ยักษ์  ซึ่งให้ลูกเก่งๆหลายตัว เช่น ไอ้สองหมื่นเก้า ,ไอ้เขียววัว ,ไอ้องครักษ์จั่น ,ไอ้จิ้งหรีดทอง ,ไอ้แมงจอน เป็นต้น

ไก่ชน ที่ kaichonkhonthai | ไก่ชน ที่ kaitee-e-san | ไก่ชน ที่ kaikabot | ไก่ชน ที่ xretive | ไก่ชน ที่ sorinthanonchai | ไก่ชน ที่ champkaichon | ไก่ชน ที่ kaichonthaisamakkee | ไก่ชน ที่ kaichonguanau | ไก่ชน ที่ kaichonlumphun | ไก่ชน ที่ kaichonlumphun 2 | ไก่ชน ที่ kaipama | ไก่ชน ที่ kaichonkorat | ไก่ชน ที่ phetlakorn | ไก่ชน ที่ kaichonpattana | ไก่ชน ที่ insidekaikeng | ไก่ชน ที่ taladkaitee | ไก่ชน ที่ payakai | ไก่ชน ที่ payakai 2 | ไก่ชน ที่ kaichon | ไก่ชน ที่ gaichon | ไก่ชน ที่ borraped | ไก่ชน ที่ borraped 2 | ไก่ชน ที่ kailoy | ไก่ชน ที่ farmkai | ไก่ชน ที่ kaichonchiangmai | ไก่ชน ที่ keelakaichon | ไก่ชน ที่ kaichons | ไก่ชน ที่ kaichons | ไก่ชน ที่ thaipuntae | ไก่ชน ที่ samakomkaichon | ไก่ชน ที่ siankaichon | ไก่ชน ที่ kasetporpeang | ไก่ชน ที่ kaichonthailand | ไก่ชน ที่ facebook |

เมื่ออาทิตย์ที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ทีมงานหนองเต่าคำนำโดยโกหล้า(นานๆออกบ้านที555) เอาไก่ออกตีบ่อนบ้านออน มีไก่ได้คู่สี่ตัว แต่ปรากฎว่าไก่คู่ชนของพี่น้องมือน้ำหนีกลับบ้านไปแบบงงๆทั้งที่หมายเดือยแล้ว เหลืออยู่สามตัว
ตัวแรกเป็นไอ่ทองฮอลแลนด์ ไก่ของพ่อหลวงง่าดีบ่อนประเพณีหมู่สิบเจ็ดมาครั้งเดียว ฝีมือกลางๆเป็นไก่ยืนหงายคางหน้าตั้งๆมีแข้งหน้าบ้างจับดีดได้ ตีข้างละหมื่นเอ็ดก็แพ้ไปแบบเซ็งๆในยกที่หกเข้ามาแล้วไม่สู้เจอไก่เอาคางพอดี

ต่อนะครับตัวที่สองไอ้หม่นเมืองลาไก่เบอร์หนึ่งตัวรักของโกหล้า ไก่ตัวนี้แถวหนองเต่าคำไม่มีใครไม่รู้จัก อดีดค่าตัวพุ่งถึงห้าหมื่นก่อนจะพากันไปรถคว่ำตายที่แม่ย่อยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา(ตีเดิมพันรวมแสนเอ็ดกับไก่สารภีชัย) หลังจากนั้นได้ทำฟอร์มมาอีกครั้งปรากฎว่าตอนปล้ำพันนวมอย่างหนาตีไก่ไทยลูกถ่ายของลุงท่านนึงถึงกับทรุดลุกไม่ขึ้นทีมงานบอกต้องตีไทยเท่านั้น วันนี้หอบสังขารด้วยวัยสามขวบกว่าแล้วตีเดิมพันข้างละห้าพันห้า ได้คู่กับไก่ไทยของซุ้มป่าไผ่ดอยสะเก็ด โดยยอมเสียเปรียบตัวคู่ชนเกือบๆสามสอง แด่อายุและเดือยอยู่ที่เรา ไก่ไทยตัวนี้พวกบอกไม่มีใครอยากตีด้วยน๊อคมาสองไฟต์แบบตีพม่านอนคาเสียงเวียนมาทั้งสองตัว ทีมงานตรงข้ามโวบอกตอนปล้ำทุบไก่สามโลสองตายคาเสียงเวียนมาแล้ว555 ก่อนปล่อยหางโกหล้าเสมอกับเจ้าของไก่ไปสองหมื่น
ปล่อยไปอันแรก ไก่ไทยใหญ่กว่ามากข้ึนไล่บนทันทีไอ่หม่นทำอะไรไม่ได้ด้วยความที่เป็นไก่ไม่มีตำราของไอ้หม่น ทั้งลงทั้งเรียงให้คู่ต่อสู้ตีหลายครั้ง แต่ได้จังหวะก้อยิงขึ้นแข้งมาเป็นชุด ฝั่งตรงข้ามใหญ่กว่าร้องต่อสามสอง โกหล้ารองไปขุมละหมื่นติดสองขุม(มันเล่นอยู่คนเดียวมัน) หมดอันแรกเราทำอะไรไม่ได้ง่อนเราเริ่มแฉะแต่มีแค่แผลเดียว ส่วนคู่ชนมีสองแผล
อันสอง ต้นอันไอ่หม่นได้จังหวะติดไม่กี่ทีคู่ต่อสู้หลุไปเลย ด้วยเบอร์แข้งและความแก่ของแข้ง ทำให้คู่ต่อสู้เก็บอาการไม่ได้ราคาไหลไปถึงสิบหนึ่งในปลายอัน ออกไปไก่ไทยต้องเย็บชนิดว่าเหมือนปะกางเกงยีนยังไงยังงั้นแตกแผลยาวตั้งแต่กลางกบาลถึงท้ายทอย
อันสาม ไอ่หม่นแทงบ่อเลือดคู่ต่อสู้ไหลเกืบครึ่งยก เข้ามาอันสี่ของค่าน้ำใจแล้วเอาออกไปเลย

ตัวที่สามเค้าว่าทีเด็ด เป็นไก่ทองของพ่อหลวงง่าเห็นตีมาครั้งที่เกือกเหล็ก เค้าว่าคลาสสิคสุดๆชอบตีไทยมาก ได้คู่เป็นไก่ไทยเสียเปรียบค่อนข้างมากเพราะพ่อหลวงง่าใจร้อนหน้ามืดเพราะตัวแรกแพ้ไป เดินพันข้างละห้าพันห้า
อันแรก คู่ต่อสู้เป็นเหลืองหางขาวอย่างสวยขึ้นมากดคอเราซึ่งเป็นไก่โยกล่างกดคอตีเอาๆ อันแรกทั้งอันทีมงานบอกแม่งแพ้ชัวไม่ได้ดีดเลยถอดไปไหนไม่ได้ เซียนในสนามบอกอันหน้าหนีแน่นอน ออกไปให้น้ำมันไม่มีสักแผลส่วนของเราหน้าด้านนึงบวมหมด
อันสอง ไก่ไทยดันเดินเข้ามาช้าไอ้ทองเริ่มถอดได้และก้อมามีจุดเปลี่ยนเมื่อไอ่ทองแทงตาคู่ต่อสู้บอด ทีนี้กลับกลายเป็นเซียนบ่นกันว่าใครมาสอนมวยแถวนี้ว่ะ ทองซ้อมตัวเดียวจนหมดอันที่สามคู่ต่อสู้ไม่เอาไก่เข้า

คำพยากรณ์วันพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญปีนี้ พระยาแรกนาหยิบผ้า 5 คืบ พยากรณ์ น้ำจะมีปริมาณพอดี พระโคกินงา ผลาหาร ภักษาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี และกินหญ้า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร

สำหรับ พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนา ขวัญในปีนี้ ผู้ทำหน้าที่พระยาแรกนา คือ นายจรัลธาดา กรรณสูต ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เทพีคู่หาบทอง ได้แก่ นางสาวสุภกัญญา กาญจนะคูหะ เศรษฐกรชำนาญการ ศูนย์ประเมินผล สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) และนางสาวรำพึง ปราบหงส์ เจ้าพนักงานพัสดุชำนาญงาน กองพัสดุ กรมชลประทาน เทพีคู่หาบเงิน ได้แก่ นางสาวสุนี รู้สุกิจกุล เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญงาน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) นางสาวณุทนาถ โคตรพรหม นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติงาน กรมปศุสัตว์ พระโคแรกนา ได้แก่ ฟ้า และ ใส พระโคสำรอง ได้แก่ เทิด และ ทูน

โดยคำพยากรณ์ในวันพระราชพิธีจรดพระ นังคัลแรกนาขวัญปีนี้ พระยาแรกนาจะตั้งสัตยาธิษฐานเสี่ยงทายหยิบผ้านุ่งแต่งกาย หยิบได้ผ้า 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี สำหรับการเสี่ยงทายของกิน 7 สิ่ง ที่ตั้งเลี้ยงพระโค พระโคกินงา พยากรณ์ว่า ผลาหาร ภักษาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี และพระโคกินหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี